#SPโฟเบีย
#Spideypool
- มาจากกิจกรรมในทวิตเตอร์นะค้าาา ตามได้จากแท็กอันแรกด้านบนเลยย มีหลายเรื่องของหลายๆคนค่ะ
- โดยเราได้หัวข้อ โรคกลัวเด็ก นะคะ
- twitter : @__samu1615
สไปดี้อิมเมจเป็นหนู ทอม ฮอลแลนด์ นะคะ ><
เพราะน้องหนูดูใสใสสุดและน่าล่อลวงที่สุดแล้วค่ะ ! #นั่น
วันวันหนึ่งของเขาก็ไม่มีอะไรมาก
ชีวิตของเขาดำเนินไปตามปกติเช่นเคยดั่งเช่นทุกวัน
เพียงแค่อาจจะไม่เหมือนใครนิดหน่อย… แค่นิดหน่อยจริงๆอะนะ
เขาว่ามันก็ไม่แปลกนะ กับ การที่ต้องใส่หน้ากากสีแดง กับ ชุดสีแดงๆนาบแนบไปตัว
เพื่อจะออกไปปีนตึก โหนตึก เพื่อที่จะ ระบายอารมณ์ แฮ่ม ช่วยเหลือประชาชนทุกๆวัน
อืม… เขาว่าชุดสีแดงที่คุณสตาร์คช่วยออกแบบให้เขาเจ๋งที่สุดแล้วหล่ะ เขาชอบมากเลยทีเดียว
แต่ตอนนี้เขากำลังพบกับปัญหาใหม่ เพราะมีเจ้าตัวแดงในชุดที่นาบแนบไปกับตัวปรากฏตัวขึ้นอีกคน
ชุดของคนคนนั้นค่อนข้างที่จะคล้ายของเขานะ เขาคิดว่างั้น
แต่ช่างเถอะ เขาไม่สนใจหรอก เพราะยังไงก็คงไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกัน
และนั้นก็ทำให้เขารู้ว่าเขาคิดผิด…. อย่างแรง
“เฮ้ ที่รักเจอกันอีกแล้ว” เจ้าคนชุดแดงที่เขาให้ชื่อเรียกในใจอย่างลับๆว่าเป็นลอกเลียนแบบชุดของเขาส่งเสียงทักเขา
ปีเตอร์กรอกสายตาอย่างรำคาญ เพราะตอนนี้เขาที่อยู่ในสุดยอดชุดที่คุณสตาร์คทำขึ้นเป็นพิเศษให้นั้นกำลังนั่งอยู่บนตึกสูงเพื่อกำลังมองหาเรื่องให้เข้าไปวุ่ยวาย แฮ่ม ช่วยเหลือ และไม่คิดว่าจะเจอคนคนนี้
“สไปดี้เมินเค้า เค้าเสียใจ” คนที่ตอนหลังใช้ชื่อในวงการว่า เดดพูล เรียกชื่อในวงการของตัวเขาแบบย่อๆ จริงๆมันควรจะเป็น สไปเดอร์แมน ต่างหาก!
แต่ช่างเถอะ เขาไม่อยากคุยกับคนคนนี้หรอกนะ ว่าแล้วปีเตอร์ก็เมินไปทางอื่นแบบไม่สนใจแต่ก็ต้องสะดุ้งตกใจจนร้องอุทานเสียงดัง “เฮ้ย!”
เพราะเดดพูลนั้นเข้ามาประชิดตัวเขาจนเซ้นส์แมงมุมทำงาน เขายื่นมือไปดันหน้าอีกคนออกอย่างรวดเร็ว ให้ตายเถอะเผลอนิดเผลอหน่อยเป็นไม่ได้! “เป็นบ้าอะไรอีกแล้วเนี้ย!”
“แบบว่าบ้ารักเบบี้บอย <3”
“เห้ออออออออออออ”
ปีเตอร์ถอนหายใจยาวอย่างเบื่อหน่าย เขาไม่เข้าใจเดดพูลเลยจริงๆ จำได้ว่าแถวนี้มีแค่เขาเป็นฮีโร่เพียงคนเดียว อยู่ๆก็มีใครไม่รู้โผล่เข้ามา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจยังคงหาเรื่องสนุกๆทำโดยการช่วยเหลือคนไปเรื่อยๆ แต่อยู่ๆในระหว่างที่เขากำลังนั่งกินแซนวิชแสนอร่อยของป้าเมย์อยู่บนสะพานแขวนเงียบๆคนเดียว ก็มีใครไม่รู้โผล่มาข้างหลังจนเขาแทบจะวางมวยใส่ทันที
ตูม! โครม!
และแล้วก็เหมือนจะมีภารกิจเข้ามาหาพวกเขาจนได้ เสียงการเกิดอุบัติเหตุดังลั่นมาจากอีกฟากนึงของเมือง เขาได้ยินมันชัดเจน จึงรีบที่จะไปช่วยทันที
หมับ
แต่ก็ไม่ทันได้พ่นใยออกจากเครื่องที่มือ เพราะมีมือที่ไวกว่าคว้าหมับเข้าที่เอวของเขา
เขาหันไปแหวใส่ “เฮ้ ปล่อยสิฉันจะไปดูว่ามีอะไรเกินขึ้น”
เดดพูลส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงมองว่ามันช่างกวนบาทาเหลือเกิน “โนวๆ เค้าไม่ปล่อยหรอกเบบี้บอยจะทิ้งเค้าอะ!”
โอย มีความรำคาญครับ !! งั้นก็ไปทั้งแบบนี้แหละ!
เขาไม่สนใจตัวน่ารำคาญที่เกาะเอวตนเองไว้แน่น และรีบปล่อยใยจากเครื่องพ่นใยที่ข้อมือของตนไปที่ตึกตรงข้าม และกระโดดลงทิ้งตัวโหนไปตามตึกต่างๆ มุ่งหน้าไปยั่งทิศที่มีเสียง โดยที่มีมือปลาหมึกเกาะเขาแน่บหนึบไม่ยอมปล่อย
และเมื่อไปถึงเขาก็เห็นอุบัติเหตุรถชน แต่มันจะไม่มีอะไรเลยหน่ะสิ ถ้าไม่ใช่ว่ารถที่ชนนั้นเป็นรถขนาดใหญ่สีเหลืองของโรงเรียนเด็กประถม! แต่ดูโดยรวมแล้วตัวเขาคงไม่ต้องเข้าไปช่วยเพราะเป็นแค่การชนกันของรถไม่มีอะไรมาก และก็มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือแล้ว
เขามองเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ จนนึกได้ถึงมือปลาหมึกที่กอดเอวเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย “ปล่อยได้แล้วเดดพูล”
เดดพูลไม่ตอบกลับ แต่เอาหน้าซุกไซร้หัวเขาไปมา แม้มันจะมีหน้ากากอยู่แต่มันก็แค่ผ้าแนบเนื้อทำให้รู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกัน
“ถ้าไม่ช่างจ้อ ก็ต้องถึงเนื้อถึงตัวตลอด มีใครเคยบอกนายไหมว่านายมันน่ารำคาญ” ปีเตอร์ดันหัวอีกฝ่ายออกพร้อมกับเสียงบ่น
“ไม่ค่อยจะบ่อยเท่าคำว่ากวนอวัยวะเบื้องล่าง”
“กวนตีน”
“ไม่นะเบบี้บอย หนูน้อยน่ารักของป๋าไม่ควรพูดคำนี้!” เดดพูลทำท่าประหนึ่งโลกนี้จะแตกสลายใส่ปีเตอร์
โดยส่วนตัวแล้วปีเตอร์คิดว่าตัวเองก็เป็นคนที่พูดมากอยู่เหมือนกัน แต่พอมาเจอเดดพูลเขาก็รู้สึกหมดคำพูดจริงๆ จากที่ดูร่างกายของเดดพูลผ่านชุดแนบเนื้อเขาคิดว่าคนคนนี้น่าจะอายุเยอะกว่าเขาพอสมควรนะ แต่เขาก็ไม่อยากพูดจาสุภาพเหมือนตอนพูดกับคุณสตาร์คหรอก เพราะเดดพูลไม่เคยเจอเขา และไม่รู้อายุของเขานี้หน่า พื้นฐานการกวนที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ถ้าอีกฝ่ายไม่รู้อายุเราต้องตีตนเสมอ!
ปีเตอร์เลือกที่จะเมินเดดพูลอีกครั้ง แต่ในขณะที่เขากำลังเบนสายตาออกไปมองเหตุการณ์ด้านล่าง ก็เห็นเด็กน้อยคนหนึ่งอายุราวๆ 3 ขวบกำลังปีนลงมาจากหน้าต่างรถโรงเรียนโดยไม่รั้งรอให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ใหญ่เข้าไปช่วย อาจเพราะยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนท้องถนน และเด็กน้อยคนนั้นก็อยู่เป็นคนหลังสุดของคัน
เด็กน้อยก้าวขาออกมาจากหน้าต่างของรถ ขาหนึ่งห้อยอยู่ด้านนอก ส่วนมือจับหน้าต่างด้านข้างไว้แน่น ดวงตาจ้องมองไปบนพื้นถนนก่อนจะตัดสินใจกระโดดลงไป แต่อาจจะเป็นเพราะสรีระที่ยังบอบบางและไม่แข็งแรงทำให้แทนที่จะเป็นส่วนขาที่ต้องพุ่งลงไปบนพื้นถนน กลับเป็นส่วนหัวที่จะดิ่งลงไปบนพื้นแทน
เมื่อเห็นดังนั้นปีเตอร์ก็พุ่งลงไปแบบไม่คิดถึงความกลัวของตน กระโดดลงมาจากตึกสองชั้นที่ตนกำลังอยู่ ขณะกระโดดมือข้างหนึ่งพ่นใยไปจับตัวเด็กน้อยไว้ อีกข้างก็พ่นไปที่ตึกเพื่อรั้งตัวไว้ไม่ให้ตกลงสู่พื้น
ปีเตอร์ปล่อยเด็กให้ลงสู่พื้นถนน ก่อนจะกระโดดลงมาด้วย เพราะก่อนหน้ารีบร้อนกระโดดลงมารับช่วยเด็กคนนี้จึงทรงตัวที่จะโหนต่อไม่ได้
เด็กน้อยที่ยังตกใจ แต่ก็หายทันทีที่เห็นร่างของเขา เด็กน้อยตะโกนเสียงดังอย่างดีใจ “สไปเดอร์แมนช่วยผมฮะ!!”
เมื่อจบเสียงเด็กน้อยที่เขาให้ความช่วยเหลือ คนรอบข้างก็เริ่มหันมามอง เด็กตัวเล็กหลายๆคนเมื่อเห็นฮีโร่ในดวงใจสายตาก็เปล่งประกายรีบวิ่งเข้ามาหาฮีโร่ของตนทันที “ไอ้แมงมุมมมมมมมมมมม”
เด็กหลายๆคนส่งเสียงเรียก และหลายๆคนเริ่มที่จะเข้ามาจับตัวเขา ไม่ก็กระโดดกอดเขา
ปีเตอร์เกร็งทันทีที่เห็นร่างเด็กหลายเข้ามาหาตน มือเท้าก็เริ่มเย็น ยังไม่ทันที่จะหลบไปจากที่ตรงนี้ก็โดนเด็กๆเข้ามาเกาะ และเข้ามากอดร่างของเขา ปีเตอร์สะดุ้งสุดตัว ตกใจจนแทบจะเป็นลม รู้สึกอยากจะวิ่งหนีออกไปแต่ก็กลัวจนทำอะไรไม่ถูก
เขารู้สึกว่าเหงื่อกำลังแตกพลั่ก เขากำลังกลัว…. เขารู้สึกอึดอัดมากๆจนแทบจะเป็นลม
ปีเตอร์รู้สึกอย่างทันทีว่าภายในหน้ากากของเขา น้ำตาของเขาเริ่มคลอเบ้าเพราะกำลังเครียดและกลัวจับใจ ท่าทีของเขาไม่ว่าใครก็ไม่รู้หรอกว่าเขากำลังกลัว เพราะอาการกลัวของเขาล้วนแต่อยู่เพียงในหน้ากาก ตอนนี้ตัวเขาต้องการคนช่วยเป็นอย่างมาก…
และในทันทีเดดพูลที่ไม่รู้ลงมาจากตึกเมื่อไหร่ ก็รีบเดินเข้ามา ก่อนจะหยุดอยู่ข้างๆตัวเขา แล้วก้มลงไปพูดกับเหล่าเด็กน้อยอย่างอารมณ์ดี “หนูๆรู้จักเดดพูลไหมเอ้ย?”
บรรดาเด็กน้อยพากันมองอย่าง งงงวย แน่นอนว่าเด็กๆไม่รู้จักเดดพูลหรอก เพราะเดดพูลไม่ได้ทำตัวแบบฮีโร่ซักเท่าไหร่ เดดพูลค่อนข้างจะมีความสุขกับการเรียกตัวเองว่าอาชญากร และไม่เคยเปลี่ยนอุดมการณ์ของตัวเองไปเป็นฮีโร่แม้แต่ครั้งเดียว
เมื่อเดดพูลเห็นว่าเด็กๆพากันมองเขาอย่างใคร่รู้จนลืมที่จะเข้าไปหาฮีโร่ในดวงใจของตนอย่างสไปเดอร์แมน เดดพูลก็รีบดึงร่างของสไปดี้ออกมาอย่างรวดเร็ว และพาเข้าไปในตรอกเล็ก เดดพูลกระซิบแผ่วเบาต่อปีเตอร์ “ฟู่ว ใจเย็นที่รักคุณไม่เป็นไรแล้ว แต่ตอนนี้คุณควรจะรีบพ่นใยน่ารักๆของคุณพาเราออกจากตรงนี้ก่อนนะ” เดดพูลพูดบอกอย่างใจเย็น
ปีเตอร์ในร่างสไปเดอร์แมนในตอนนี้เริ่มจะหายใจคล่องคอขึ้นมาบ้าง และเห็นด้วยกับคำพูดของอีกฝ่าย จึงพ่นใยขึ้นไปบนตึกทันทีโดยที่มีเดดพูลเกาะเอวของตนไว้อีกครั้ง
ปีเตอร์โหนตัวไปเรื่อยๆพร้อมกับเดดพูลที่เกาะเอวเขาอยู่ เขาพาตัวเองมาหยุดที่ตึกสูงแห่งหนึ่งที่ใกล้กับตึกที่พักของเขากับป้าเมย์ ที่เขาไม่ไปที่ตึกที่เขาพักอยู่ก็เพราะนึกได้ถึงการคงอยู่ของคนที่เกาะเอวของตนเองอยู่ “ปล่อยได้แล้ว”
“หายกลัวหรือยัง” เดดพูลถามด้วยน้ำเสียงแปลกไปจากเคย มันดูอ่อนโยนกว่าสิ่งที่เดดพูลมักจะพูดกวนในเวลาปกติ
“รู้ได้ยังไงว่าฉันกลัว” เขาหันไปถามเดดพูลอย่างแปลกใจ เพระเขาไม่คิดว่าจะมีคนที่รู้อาการของเขานอกจากป้าเมย์
“ฉันรู้ว่านายป่วย”
ปีเตอร์เงียบในคำตอบของเดดพูล ใช่ครับตัวเขาเองก็รู้ว่าตนเองป่วย อาการป่วยที่เรียกว่า โรคโฟเบีย โรคนี้มีอาการที่แสดงออกมาคือการที่กลัวอะไรมากๆ จนทำให้เข้าใกล้ หรือ ทำสิ่งนั้นไม่ได้ และอาการกลัวของเขาก็คือ กลัวเด็ก อาจจะดูไม่มีเหตุผลไปหน่อยแต่เขากลัวมันจริงๆ แต่คิดว่าคงเลี่ยงได้จึงไม่คิดที่จะเข้ารักษา “นายรู้ได้ยังไง”
“ฉันรู้เรื่องของนายทุกเรื่องที่รัก”
ปีเตอร์มองอีกฝ่ายอย่างระแวง “ต้องการอะไร”
“โอ้ไม่ อย่ามองฉันด้วยสายตาร้อนแรงแบบนั้นเบบี้บอย เชื่อใจฉันได้เลยฉันไม่ใช่ศัตรูของนายแน่นอน”
ปีเตอร์นิ่งคิดไปนิดหน่อย แต่ก็คิดได้ว่าอีกฝ่ายไม่เคยทำร้ายเขา ส่วนใหญ่จะคอยช่วยเหลือเขามากกว่าเวลาเขาพลาดในการต่อสู้ และเมื่อกี้อีกฝ่ายก็ยังเป็นฝ่ายช่วยเขามากจากตรงนั้น เมื่อคิดได้ดังนั้นปีเตอร์จึงพูดเสียงอ่อนลงนิดหน่อย “แล้วต้องการอะไรละ”
“ทำความรู้จัก”
“เพื่ออะไรละ” เขาถามอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ
“ก็แค่อยากรู้จัก” เดดพูลยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
ปีเตอร์มองเดดพูลนิ่ง เพราะไม่เข้าใจอีกฝ่ายจริงๆ จะรู้จักกันไปเพื่ออะไรไม่ได้เกี่ยวข้องกันซักหน่อย อีกฝ่ายก็คงไม่เข้าทีม ดิ แอดเวนเจอร์ หรอกนะ แต่ถ้าเป็นอย่างที่คิดจริงคุณสตาร์คน่าจะบอกเขา แต่เขาก็ไม่เห็นว่าคุณสตาร์คจะเพิ่มสมาชิกใหม่ มันจึงค่อนข้างจะแปลกมากถึงมากที่สุด
“ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์” เมื่อเห็นเขานิ่งไปนานเดดพูลจึงเรียกชื่อจริงของปีเตอร์แทนที่จะเรียกชื่อในวงการซุปเปอร์ฮีโร่
ปีเตอร์ตกใจทันทีเมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อจริงๆของตน “เฮ้ ฉันไม่เคยบอกชื่อของฉันกับใคร” ในชุดนี้
“ขนาดอาการป่วยของนายฉันยังรู้ คิดหรอว่าฉันจะไม่รู้ชื่อของนายปีเตอร์” คนที่ปกติมีความกวนค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้กลับพูดด้วยน้ำเสียงสุขุมดูเป็นผู้ใหญ่
ปีเตอร์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย กับคนคนนี้คงไม่ต้องปิดอะไรแล้วละมั่ง ขนาดอาการที่เขาไม่เคยบอกใครเขาคนนี้ยังรู้ได้ คิดได้ดังนั้นปีเตอร์จึงแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในขณะที่สวมชุดไอ้แมงมุมของตัวเอง “ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์”
เดดพูลมองเขาอย่างแปลกใจนิดหน่อยก่อนจะตอบรับการแนะนำตัวของเขาด้วยการยื่นมือเข้ามาจับมือของเขาเขย่าเบาๆแล้วแนะนำชื่อตัวเอง “เวด วิลสัน”
เขาพูดอย่างเซ็งๆใส่เดดพูล “ถือว่ายินดีที่ได้รู้จักก็แล้วกันคุณวิลสัน”
“ยินดีครับคุณปาร์คเกอร์”
- talk
- คิดว่าาา น่าจะมีอีกซัก พาร์ทค่ะ จบพาร์ทแรกก่อนเนอะะะ
- ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค้าา ><
- สมัครเว็บนี้เพื่อลงนิยายเลย ฮาาาาา
ทำไมมันดูน่ารักใสใสต้องเพราะอิมเมจน้องทอมใช่ม้ายยยยโฮววววววว น่ารักดีค่ะรอPartต่อไป😂😂
ถูกใจถูกใจ
กรี๊ดด พึ่งเล่นเว็บนี้จริงๆจังค่ะ เลยพึ่งเห็นว่ามันมีแจ้งเตือนด้วย 55555 พาร์ทต่อไม่มั่นใจเบาๆค่ะ สายดองมากตอนนี้ ตอนนี้ยิ่งกำลังขึ้นเรือสเปิร์คด้วย ฮาาาา -/เตะตัวเอง
ใช่เลยค่ะ เมจน้องทอมน่ารัก และน่าล่อลวง… -/ลูบหน้า
ถูกใจถูกใจ